วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บทที่1::ความผิดปกติ::

     'ก๊อกๆ'
     "พีน่า... เช้าแล้วน่ะลูก ตื่นได้แล้ว"
     โอ้ยเช้าแล้วหรอเนี้ยยังนอนไม่อิ่มเลย -A- นอนต่ออีกนิดจะได้ไหมเนี้ย ทำไมโลกนี้ถึงต้องมีวันจันทร์ด้วยเนี้ย แต่ทำไมตัวเราขยับไม่ได้เนี้ย! ทำไมรู้สึกหนักว่าตัวหนักไปหมด หรือเราจะนอนไม่พอเลยเป็นแพนด้าไปแล้วจริง !!
     "พีน่า แม่เรียกแล้วไม่ตื่นหรอ งั้นแม่เข้าไปน่ะ"
     'แกร้ก แอ๊ดดดดดดด'
     โอโห! เสียงประตูเปิดช่างแสบถึงทรวง นี้ถ้ากำลังนั่งสมาธิอยู่มีหวังตบะได้แตกตั้งแต่คิดจะทำแล้วเผลอเปิดประตูแน่ =A= เย็นนี้กลับแม่จะซ่อมประตูให้มันเปิดแล้วลื่นปรื้ดๆเลยแต่ตอนนี้ต้องพยายามลืมตาให้กว้างเพื่อรับแสงหน่อย เอ้า ฮึบบบ!1 2 3 แฮกๆ ทำไมมันถึงเปิดไม่ได้เนี้ย หรือเป็นเพราะนอนดึกไปเลยมีกลุ่มอนุมูลอิสระมาเกาะอยู่ที่เปลือกตาอย่างหนาแน่นเนี้ย หรือไปน้วยแพนด้าตัวผู้ในฝันจนเป็นตากุ้งยิงไปซะแล้ว -.,-'
     "พี่น่า..ลุกได้แล้วน่ะนี้จะนอนคลุมโปงไปถึงไหนหน่ะ"
     'พรึบบบ'  แม่กระชากผ้าห่มไปอย่างไร้เยื่อใย = ='ทำให้อากาศหนาวเย็นจากแอร์ที่เปิดไว้ 10 องศา แทรกซึมเข้ามาทุกอนูของร่างกายทำให้ ขนแขนนน~~สแตนอัฟ แต่ในกรณีนี้คงไม่ใช้แค่ขนแขนสิน่ะ ขนาดเปลือกตาที่ลืมไม่ขึ้นยังสแตนอัฟเลย โอ้วฟิน~~ = =
     "พีน่า -0- ลูกไปย้อมผมมาหรอ"
     "ไม่ นี้ค่ะแม่ แล้วทำไมหนูถึงรู้สึกไม่มีแรงเหมือนจะเป็นหวัดเลยละเนี้ย"นี้ถ้าได้หยุดซักวันคงจะหายดี อิอิ -__,- ขอนอนต่อดีกว่า
     "เพราะฉะนั้น! หนูขอผ้าห่มคืนแล้วนอนพักซักวันน่ะค่ะ" O_O ตาโตโต แก้มป่อง เรียกคะแนนความเห็นใจจากท่านแม่
     "ไม่ได้ -[]-' ลูกต้องไป โรงพยาบาลเพื่อเช็คอย่างละเอียดเลยทีเดียวหล่ะ"
     "ทำไมหรอแม่ -0- พูดยังกะหนูเป็นอีโบล่าหน่ะที่ต้องไปเช็คเนี้ย"
     "ถึงไม่ใช้อีโบล่าก็ต้องไปด่วน!!"
     "ทำไมหรอแม่ ที่ว่าด่วนนี้ *-* หรือว่าตอนนี้หนูเป็นหมีแพนด้าไปแล้ว =[]=!!"
     "แพนด้าบ้านแกสิ = = หัวขาวแบบนี้หมีขั้วโลกเถอะ"
     "หาา แม่อำหนูเล่นหรอ หนูยังอายุ 16 เองหัวยังไม่ทันขาวเลย"
     เกิดอะไรกับร่างกายกันเนี้ยอยู่ดีๆทำไมรู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ร้อนจังร้อนไปทั้งตัวเลย แอร์ตอนนี้ก็ยัง 10 องศาทำไมมันยังร้อนกันเนี้ย หรือฉันจะเป็นหมีขั้วโลกไปแล้วจริงๆ!! แล้วร่างกายฉันเลยทนหนาวได้ ไม่เอาน่ะฉันยังไม่อยากเป็นหมี
     "แม่หนูเหนื่อย หนูไม่ไหวแล้ว"
     "พีน่า แข็งใจไว้น่ะแม่จะพาไปหาโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย"
     "แม่หนูจะกลายเป็นหมีขั้วโลกจริงๆหรอค่ะ"ตอนนี้ทุกอย่างเบลอไปหมด ตามันเริ่มหนักขึ้นคงเป็นเพราะฉันทนหนาวได้ดีขึ้น พร้อมทั้งชั้นไขมันหน้าๆแบบหมีขั้วโลกเริ่มก่อตัวเลยทำให้ลุกไหมได้ สติมันเริ่มไม่คงที
     "ลูกจะไม่เป็นไร แม่เชื่อว่าลูกจะไม่มีทางเป็นอะไร"
     คำพูดของแม่มันทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นแต่ตอนนี้สติมันพร่าเต็มที่แล้วฉันส่งยิ้มให้แม่แต่ก็ไม่รู้ว่าสภาพฉันตอนนี้จะเป็นการยิ้มแบบคนหรือหมีกันน่ะ ฉันปิดตาลงและทุกอย่างก็ดับวู๊ปไป..
   

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บทนำ::สิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป::



     "เฮ้อออ...." การทำการบ้านนี้ช่างเป็นอะไรที่น่าเบื่อจัง บ่นไปก็ไม่ได้อะไรทำต่อดีกว่า 
     ฉันบิดขี้เกียจก่อนจะเริ่มทำการบ้านที่ได้หมักไว้ในวันศุกร์ และต้องส่งในวันพรุ่งนี้ -*- 
     'เกร๊กกกก~~~~~' ปากกาลายคิตตี้ลุดเลิฟได้หลุดจากมือและกลิ้งไปใต้เตียงหลังจากที่ฉันบิดขี้เกียจอย่างเมามันส์ไป ยู้ฮู้ว โลกนี้ช่างสวยงามมมม 
     ( =A=) แต่มันอาจจะไม่สวยงามมากนักหลังฉันได้เห็นใยแมงมุมที่เกาะอยู่อย่างหนาแน่นที่ใต้เตียง ซึ่งในนั้นทั้งมืดและหนาว อุ้ย ไม่ใช้ล่ะ ยังไงก็เถอะ ต้องหยิบปากกาที่รักมาก่อนที่มันจะเป็นอาหารของแมงมุมพวกนั้น 
     "ฮืบ.... "ใต้เตียงลึกกว่าที่คิด งั้นลองยืดแขนมากกว่านี้สิ นี้ถ้าเป็นแม่นากก็คงจะดีได้ไม่ต้องมามุดเตียงเพื่อหยิบปากกาลายคิตตี้แบบนี้ =A= 
    "นี้ถ้าปากกามันโพล่มาในมือแบบนักมายากลก็ดีสิ = =' " นี้ถ้ามุดเยอะกว่านี้มีหวังผมของฉันต้องเป็นรังนางพยาแมงมุมแน่ๆ แต่ไม่ๆๆๆ ปากกาที่รักของฉันสำคัญกว่าาาา *0* ต้องช่วยมันมาจากใยแมงมุมก่อนที่มันจะตายอย่างทรมาน T_T 
     "งืมมมม...คิตตี้"ตอนนี้คงต้องเพ่งและ เอื้อมอยากต้องใจ แต่แล้ว !! มีอะไรมาอยู่ในมือด้านที่ยันพื้นไว้ และน้องคิตตี้ฉันก็หายไป !! มันหายไปไหนกันหน่ะ หรือฉันเอื้อมถึงแล้วปัดไปไหนก็ไม่รู้ งั้นมุดออกมาก่อนแล้วกัน = = ) หือ แล้วไอมือด้านนี้มันมีอะไร O_O เอ๊ะ! มันคล้ายๆน้องคิตตี้ของฉันน่ะ 
      "เป็นไปไม่ได้นาาา = =Q มันมาอยู่ในมือด้านนี้ได้ไงเนี้ย" ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง อืมมม... หรือว่าเราจะเป็นนักมายากลในชาติที่แล้วเลยยังเหลือเวทมนต์ค้างมา *-*! ไม่ๆๆๆๆ ฉันคงบ้าไปเองเมื่อกี้อาจแค่ฉันเผลอปัดปากกาจนกลิ้งมาที่มือด้านนี้ แต่จะลองซักนิดคงไม่มีใครหาว่าเพ้อเจ้อหรอกน่ะ *-*
     "ตุ้กตาตัวนั้น !!!" ฉันว่าพลางชี้นิ้วไปที่ตุ้กตาหมีริรัคคุมะ "จงมาที่ตักฉันสิ๊"
     ....ไม่มีเสียงตอบรีบจากน้องริรัคคุมะที่ท่านเรียกกรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ ....
     ตุ๊กตายังนั่งตาบ้องแบ๋วอยู่บนหัวเตียง เฮ้อออ..นี้ฉันคงจะเพ้อหนักไปสิน่ะ พอๆ เลิกเพ้อ ! เข้าสู่โลกความจริงแล้วไปทำการบ้านต่ออย่างสนุกสนาน เย้ -*-
     เวลาผ่านไปล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืน โอ้เย้ในที่สุด!! การบ้านที่ฉันพอกหางน้องหมูไว้ก็ได้ถูกล้างทำความสะอาดจนหมด
     "พีน่า นอนแล้วยังลูกก~~"
     แม่ฉันเรียกฉันพร้อมเปิดประตูเข้ามาดู
     "จะนอนแล้วค้าา เพิ่งทำงานเสร็จเมื่อกี้เอง" ก่อนแม่เข้ามาแปปนีงเองงง >< อรั้ยยย
     "ดีแล้ว รีบๆนอนได้แล้ววเดี๋ยวระวังตื่นมาแล้วเป็นแพนด้าแล้วจะหาว่าแม่คนสวยไม่เตือนนน"
     "ถึงงเป็นแพนด้าแต่ก็เป็นแพนด้าที่สวยที่สุดน่ะค่ะ"พอดีมีแม่พันธุ์กับพ่อพันธุ์ชั้นเยี่ยมแถมเผลอๆ แพนด้าตัวเมียอาจจะต้องครองโสดเพราะแพนด้าตัวนี้จะกระชากใจมาให้หมดเลยยยย !!
     "เพ้อไปถึงไหนแล้วหน่ะ พีน่า = =' น้ำลายย้อยเชียวเป็นสายเชียว"
     "โถ่แม่ละก็ เดี๋ยวหนูก็นอนแล้ว" คนกำลังฟินหมดฟิลลิ่งนางพญาแพนด้าหมด ว่าแต่น้ำลายย้อยนี้มันใช้หรอ -*- ที่รู้ๆ แค่ทำหน้าฟินแบบเอื้อยโลกเบี้ยวเน็ตไอดอลของหนูเท่านั้นเองง *-*
     "จะเที่ยงคืนแล้วน่ะลูก ไปนอนได้แล้ว อย่าเพิ่งไปโลกแพนด้าเลยพีน่า"
     แม่รู้ได้ไงเนี้ยว่าแพนด้าคนสวย เอ้ย! พีน่าคนสวย กำลังมโนว่าตัวเองเป็นแพนด้าแต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้ทำไมรู้สึกว่าร่างกายมันร้อนวูบวาปไปหมด สงสัยคงจะเป็นหวัดสิน่ะ งั้นแพนด้าคงต้องนอนพักผ่อนซะแล้ว -w-' ...พอหัวถึงหมอนฉันก็หลับลงไโดยไม่รู้ว่าจะมีปัญหาหนักตามมาในวันพรุ่งนี้ !!!
     

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทะเลสาบสีชมพู

       เลค ฮิลเลอร์ หรือ ทะเลสาบสีชมพูนี้ เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ตั้งอยู่ในเกาะขนาดใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะ Recherche Archipelago ที่ประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อย 105 เกาะ ที่อยู่ทางตะวันตกของออสเตรเลีย สิ่งที่ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้โดดเด่นกว่าทะเลสาบอื่นบนเกาะก็คงเป็นสีน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ที่มีสีชมพูหวานแหววดูแปลกตาเป็นที่สุด ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกโดยกัปตันแมทธิว ฟลินเดอร์ส ขณะที่เขาขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเกาะในปี 1802

           โดยทะเลสาบแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร มีขอบแคบ ๆ ที่ปกคลุมเนินทรายและต้นไม้ที่แยกทะเลสาบออกจากทะเลด้านนอก ขอบทะเลสาบปกคลุมไปด้วยแผ่นเกลือสีขาว ล้อมรอบด้วยป่าต้นเปเปอร์บาร์ค และต้นยูคาลิปตัสที่ปกคลุมอย่างหนาแน่น


  
           ทั้งนี้ สำหรับเหตุผลที่น้ำในทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นสีชมพูนมเย็นนั้น ก็เพราะน้ำทะเลมีความเค็มมาก และมีแบคทีเรีย Dunaliella ซึ่งชอบอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เค็มจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด และแบคทีเรียชนิดนี้ จะผลิตสารสีแดงในการดูดซับแสงอาทิตย์ จึงทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อน ๆ ในตอนกลางวัน และยิ่งเมื่อทะเลสาบต้องแสงแดด มันก็ยิ่งกลายเป็นสีชมพูนมเย็นได้อย่างน่าทึ่ง

ทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทะเลเกลือ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ โบลิเวีย (Bolivia) ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 3,500 เมตร


สถานที่สวยๆ มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่บนโลกนี้จริงๆ มีอีกหลายแห่งบนโลกที่อะเมซิ่งๆที่รอเราไปค้นพบ และนี้คือสถานที่ที่เชื่อมระหว่างท้องฟ้าและผื้นทะเลหรือพูดภาษาพื้นได้ว่า ทะเลเกลือแห่งนี้กระจกบานใหญ่มหึมาที่สะท้อนท้องฟ้าลงสู่ผื้นทะเล

เครื่องเรือนประเภทโลหะ

วัสดุจำพวกโลหะมีคุณสมบัติแข็ง ขัดเงาขึ้นแวววาว นำความร้อนได้ดี ในสมัยโบราณมีการทำเครื่องมือเครื่องใช้โดยใช้เนื้อโลหะบริสุทธิ์ เช่น เงิน ทองคำ ทองแดง ต่อมามีการพัฒนาเป็นพวกโลหะผสม ซึ่งทำให้มีความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ยิ่งขึ้น โลหะที่ทำเครื่องใช้ในบ้านของเรา มีดังต่อไปนี้


1. เหล็ก เครื่องเรือนเครื่องใช้ที่ทำด้วยเหล็ก เช่น มีด จอบ เสียม และอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านอื่น มีวิธีดูแลรักษา ดังนี้

· ใช้งานให้เหมาะสมกับประเภทของเครื่องมือ เช่น มีดสำหรับสับเนื้อ ไม่ควรนำไปฟันไม้ เป็นต้น

· หลังจากใช้แล้วรีบทำความสะอาดทันที โดยใช้น้ำสบู่ล้างออกจนสะอาด หากสกปรกมากให้ใช้ฝอยขัดหรือแปรงขัด แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้ง

· ควรทาน้ำมันเคลือบเป็นครั้งคราวเพื่อป้องกันสนิม

· อย่าปล่อยให้เครื่องใช้ที่เป็นเหล็กถูกน้ำนาน ๆ หรือแช่น้ำนาน ๆ เพราะจะทำให้เป็นสนิม ถ้ามีสนิมขึ้น ให้ใช้ฝอยขัดสนิมให้หมด เช็ดให้แห้ง ใช้น้ำมันทากันสนิม แล้วเก็บเข้าที่

การเก็บรักษา
เครื่องใช้ที่ทำด้วยเหล็ก เมื่อทำความสะอาดแล้วควรเก็บใส่ซอง ปลอก หรือเก็บไว้ในตู้ที่มิดชิด ไม่วางไว้ในที่ลมพัดผ่าน เพราะความชื้นจะทำให้เกิดสนิม

**************************************************


2.เครื่องเรือนประเภทอะลูมิเนียม

อะลูมิเนียม เป็นโลหะชนิดหนึ่งที่มีน้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม จัดทำรูปทรงต่าง ๆ ได้ง่าย มักนำมาทำภาชนะเครื่องใช้ เช่น หม้อ กระทะ ทัพพี ถาด ขันน้ำ มีวิธีดูแลรักษาดังนี้

· ใช้ฝอยขัดหม้อหรือแผ่นขัด ขัดให้สะอาด แล้วล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ ห้ามใช้สารเคมีที่เป็นกรดอย่างเข้มข้นขัด

· รอยไหม้บนอะลูมิเนียม ห้ามใช้ไม้หรือเหล็กแคะ ให้ต้มด้วยน้ำผสมเกลือให้เดือด รอยไหม้จะกะเทาะออกไปเอง หรือใช้ฝอยขัดหม้อขัด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

การเก็บรักษา

เมื่อทำความสะอาดแล้ว ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง เก็บไว้ในตู้เก็บภาชนะเครื่องใช้

เครื่องเรือนประเภทแก้วและกระจก


เครื่องเรือนเครื่องใช้ในบ้านที่เป็นแก้วหรือกระจก มีมากมายหลายชนิด เช่น แก้วน้ำ
รูปทรงต่าง ๆ จาน ชาม ถ้วย ถาด กระจกเงา โต๊ะกระจก แจกัน โคมไฟแขวนประดับ เป็นต้น ซึ่งอาจทำจากแก้วเรียบ ๆ ธรรมดา หรือมีการแกะสลัก เจียระไนระบายสีให้เกิดลวดลายที่งดงามก็ได้ เครื่องแก้วเหล่านี้มีคุณสมบัติที่ดี คือ ดูแลทำความสะอาดได้ง่าย แต่มีข้อเสีย คือ มีความเปราะบาง แตกหักง่าย ดังนั้นจึงต้องรู้จักใช้และระวังรักษาไม่ให้เกิดรอยร้าว เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน

เมื่อล้างเครื่องแก้วสะอาดดีแล้ว ควรเก็บใส่กล่อง ใช้กระดาษหรือเศษผ้าวางคั่นทีละใบกันกระแทก ถ้าเป็นแก้วไม่ควรวางซ้อนกัน จะดึงออกยาก และทำให้แตกได้

เครื่องเรือนประเภททองเหลือง


ไม่ต้องแปลกใจหากอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ทองเหลืองมีสีหม่นหมองไม่แวววาวเหมือนตอนที่ซื้อมาใหม่ๆ ทั้งนี้เนื่องจาก
เครื่องใช้ที่ทำด้วยทองเหลืองนั้น เมื่อทิ้งไว้ให้สัมผัสกับอากาศจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ส่งผลให้ทองเหลืองมีสีเข้มขึ้นเรื่อยๆจนหมองในที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับภาชนะเครื่องใช้ที่ทำด้วยทองเหลือง
เครื่องเรือนประเภททองเหลือง ทองเหลืองเมื่อสัมผัสอากาศจะมีสีคล้ำ เช่นเดียวกันควรทำความสะอาดโดยขัดด้วยน้ำยาจัดทองเหลือง หรือจัดด้วยน้ำมาขามเปียก หรือน้ำมารนาวโดยใช้ผ้าหรือฟองน้ำ

เครื่องเรือนประเภทเครื่องเงิน

  


เครื่องเงิน เครื่องเรือนเครื่องใช้ที่ทำด้วยโลหะเงิน เช่น ชุดน้ำชา ขันเงิน พาน โดยธรรมชาติของเครื่องเงิน ถ้าถูกอากาศจะเกิดปฏิกิริยา ทำให้เครื่องเงินหมองคล้ำ การดูแลรักษาควรปฏิบัติ ดังนี้

· ใช้แล้วเก็บใส่ถุงพลาสติกทันที

· ล้างด้วยน้ำยาขัดเงินโดยเฉพาะ หรือน้ำมะนาวผสมสบู่ ขัดให้สะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

· ใช้น้ำอุ่นผสมสบู่ล้าง แล้วขัดให้สะอาด

· ห้ามใช้ใยขัดโลหะ หรือฝอยขัดหม้อขัดเครื่องเงิน เพราะอาจทำให้เป็นรอยขีดข่วน และสึกหรอได้

การเก็บรักษา


เครื่องเงินที่นำมาใช้ เมื่อทำความสะอาดแล้วควรเก็บใส่ถุง ใส่กล่อง แล้วนำเก็บเข้าตู้ไม่ให้ถูกอากาศ

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เครื่องเรือนประเภทพลาสติกและเครื่องเคลือบ

พลาสติก ในปัจจุบันได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เพราะพลาสติกมีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ได้แก่ มีความเหนียว ทนทาน แข็งแรง น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก และสามารถนำไปหลอมกลับมาใช้ใหม่ได้
วิธีดูแลรักษา
1. ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติกใส่ของร้อนจัดจนเกินไป เพราะพลาสติกอาจละลายเสียรูปทรง และเป็นอันตรายจากการละลายของสารเคมี
2. พลาสติกที่มีส่วนผสมของสารโพลีไวนีลคลอไรด์ หรือ พีวีซี ใช้ทำขวด หรือ ของเด็กเล่น เป็นต้น อาจเป็นอันตรายจากการละลายของสารเคมีที่ไม่ควรนำมาใช้บรรจุของเหลวร้อน
3. การล้างทำความสะอาดพลาสติกประเภทเมลามีน ใช้ล้างด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำ ผงซักฟอก เช็ดให้แห้ง เก็บเข้าที่
4. ถ้าภาชนะเปื้อนไขมันคราบไคลต่าง ๆ ให้ล้างด้วยน้ำอุ่น อย่าใช้ฝอยขัดหม้อที่เป็นโลหะขัด เพราะจะทำให้เป็นรอยขูดขีด
5. ถ้ามีกลิ่นอาหารให้ล้างด้วยน้ำส้มสายชู หรือใช้เปลือกมะนาวถู แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
 
การเก็บรักษา
เครื่องใช้พลาสติกที่ทำความสะอาดแล้ว วางซ้อนเก็บในตู้เก็บภาชนะเครื่องใช้ ส่วนเครื่องเรือนวางตั้งในห้องต่าง ๆ ใช้ผ้าคลุมป้องกันฝุ่นละอองหรือเก็บในห้องเก็บของ

เครื่องเรือนประเภทหนัง

 
สำหรับคนที่มีบ้าน คอนโด ทาวน์เฮ้า หรือแม้แต่ออฟฟิศ ล้วนแต่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์มาอำนวนความสะดวกกันอยู่แล้ว ในบรรดาวัสดุที่นิยมนำมาใช้ประดับเฟอร์นิเจอร์ โดยหนังหนังเป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งห้อง โดยส่วนมากเรามักจะเห็นหนังถูกนำมาเป็นวัสดุบุเฟอร์นิเจอร์ แต่เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็นำหนังมาดัดแปลงเพื่อเพิ่มความแปลกใหม่และหรูหราให้มากขึ้น เฟอร์นิเจอร์หนังเป็นที่นิยมใช้ในที่พักอาศัย รวมถึงยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่บอกฐานะและรสนิยมอันหรูหราได้เป็นอย่างดี ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ประเภท "หนัง" เป็นวัสดุหนึ่งที่นิยมใช้มากที่สุดด้วยลักษณะที่มีความนุ่มนวล สีสันที่สวยงามเป็นธรรมชาติดูมีราคา ไม่สะสมความร้อน และไม่อมฝุ่นละอองต่างๆ
ประเภทของ"หนัง" ที่นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์มีอยู่ 2 ประเภทหลัก คือ หนังแท้และหนังเทียม
1.หนังแท้หรือหนังธรรมชาติ มีความโดดเด่นเรื่องความหรูหราดูสง่างามมีรสนิยมอย่างมาก หนังที่ใช้มักมาจากทั้งหนังวัว หนังควาย หนังม้า ฯลฯ เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่ทำจากหนังแท้จะมีราคาแพงแต่ในความรู้สึกเมื่อสัมผัสที่ดีเป็นธรรมชาติ มีความนุ่มนวลในตัว และดูดีมีราคาในตัวเอง
2.หนังสังเคราะห์ ซึ่งไม่ใช่หนังธรรมชาติ แต่เกิดจากกรรมวิธีทางเคมีเพื่อทดแทนหนังธรรมชาติ โดยผลิตออกมาคล้ายกับหนังแท้ ซึ่งทุกวันนี้หนังสงเคราะห์มีการพิมม์สีและลายได้สวยเหมือนหนังแท้เลยทีเดียวยิ่งลักษณะภายนอกเหมือนหนังธรรมชาติมากเท่าไร ราคาก็จะยิ่งแพงมากขึ้นเท่านั้น
ข้อเสียของหนังแท้
แม้จะมีผิวที่สวยงามและนุ่มเป็นธรรมชาติกว่าหนังเทียม แต่ก็มีข้อเสียไม่น้อยเลย เช่น ราคาแพง ต้องหมั่นดูแลรักษาเช็ดและเคลือบเงาอยู่เสมอ เนื่องจากหนังแท้จะยังคงมีไขมันหลงเหลืออยู่ เมื่อไขมันระเหยสลายไปจะทำให้หนังแข็งกระด้างและเกิดแตกลายงาได้
ข้อเสียของหนังสังเคราะห์
หนังเทียมนั้นจะมีความทนทานและรับน้ำหนักได้ไม่มากนัก ฉีกขาดง่ายกว่าหนังแท้ และรักษารูปทรงให้คงเดิมได้ยาก เรื่องความรู้สึกหรือผิวสัมผัสยังคงมีความแตกต่างจากหนังแท้อยู่พอสมควร
สำหรับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ทำจากหนังแท้ต้องดูแลรักษามากกว่าหนังสังเคราะห์พอสมควร ซึ่งอันที่จริงแล้วเฟอร์นิเจอร์และของใช้ทุกชนิดล้วนต้องการการดูแลรักษาด้วยกันทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นผ้า ไม้ เหล็ก หรือพลาสติก เพียงแต่ว่าวัสดุใดจะมีจุดอ่อนด้านไหน และต้องดูแลรักษาด้านไหนเป็นพิเศษ
การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์และของใช้ที่ทำจากหนัง
1.ห้ามใช้สารเคมี เช่น น้ำมันสน น้ำยาขัดเงา และน้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรดต่างๆ เช็ดเด็ดขาด เพราะน้ำยาเหล่านี้จะทำลายผิวนอก ของหนังให้ซีดและแห้ง โดยเฉพาะหนังสังเคราะห์ที่แม้จะมีหน้าตาคล้ายหนังแท้มากแค่ไหน แต่อย่าลืมว่าหนังสังเคราะห์นั้นก็คือพลาสติกชนิดหนึ่งนั้นเอง
2.ถ้าเป็นหนังแท้ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดหนังแท้โดยแฉพาะ
3.ไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์หนังไว้ใกล้ที่ร้อน ชื้นแฉะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้อายุการใช้งานของหนังสั้นลงและทำให้เกิดเชื้อรา
4.การทำความสะอาดโดยทั่วไปสามารถใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดได้
 

เครื่องเรือนประเภทไม้

เฟอร์นิเจอร์ไม้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความมากเทียบกับวัสดุอื่นๆที่นำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์
การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีขั้นตอนที่อาจจะดูยุ่งยากมากว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุอื่นๆ เนื่องจากคุณสมบัติของตัวไม้เองที่มีความคงทนต่อความชื้นและอุณหภูมิต่ำ อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของสัตว์เล็กๆ เช่นมอดและปลวกอีกด้วย แต่ก็แลกมาด้วยความสวยงาม ซึ่งมีสูงกว่าวัสดุประเภทอื่นๆ อีกทั้งมีราคาแพงกว่ามากด้วย
โดยทั้วไปแล้วการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้สามารถทำได้ดังนี้
1.
รักษาเฟอร์นิเจอร์ของเราให้แห้งอยู่เสมอ เนื่องจากความชื้นสามารถทำลายคุณสมบัติของเนื้อไม้ได้
2.
ไม่ปล่อยให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ของเราสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะขอกจากอันตรายต่อเนื้อไม้แล้ว ยังอันตรายต่อสารเคลือบไม้ของเราด้วย
3.
ไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ไม้สัมผัสกับเปลวไฟ เนื้องจากไม้เป็นวัสดุที่ติดไฟง่าย ถึงแม้จะไม่ลุกไหม้ก็สามารถเกิดเม่าหรือเถ้าสีดำได้ ทำให้ความสวยลดลง
4.
เมื่อเปื้อนคราบเครื่องดื่มหรืออาหารต้องทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่และเช็ดให้แห้งทันที
5.
ทาสารเคลือบหรือชแล็คบ่อยๆ เพื่อรักษาผิวของเนื้อไม้ให้สวยงามอยู่เสมอและป้องกันมอดและปลวกได้ด้วย

เครื่องเรือน


เครื่องเรือนเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่ช่วยตกแต่งบ้านให้สวยงานหน้าอยู่  ในการทำความสะอาดเครื่องเรือนนั้นควรระวังอย่าให้เกิดรอยขีดข่วน  และเพื่อให้อายุการใช้งานของเครื่องเรือนยาวนานขึ้น เราจึงควรจะดูแลรักษาเครื่องเรือนให้ถูกวิธี ตามลักษณะและชนิดของเครื่องเรือน

***ชนิดของเครื่องเรือน***                                                    

1.เครื่องเรือนประเภทไม้

2.เครื่องเรือนประเภทหนัง

3.เครื่องเรือนประเภทพลาสติกและเครื่องเคลือบ

4.เครื่องเรือนประเภทเครื่องเงิน

5.เครื่องเรือนประเภททองเหลือง

6.เครื่องเรือนประเภทแก้วและกระจก

7.เครื่องเรือนประเภทโลหะ

การถนอมอาหารโดยการใช้รังสี

การฉายรังสีอาหารเป็นวิธีการถนอมอาหารที่ต้องการ
เลี่ยงการใช้ความร้อน เนื่องจากความร้อนสามารถเปลี่ยนแปลงสมบัติด้านประสาทสัมผัสของอาหาร
นั้นๆ ได้ รังสีชนิดที่แตกตัวได้ (ionizing radiation) ที่มีช่วงคลื่นสั้น สามารถที่จะยับยั้งการเจริญของ
จุลินทรีย์ การทำงานของเอนไซม์ และการเจริญเติบโตของไข่ และตัวอ่อนของแมลงได้ดี ทั้งยังสามารถ
ป้องกันการงอกของผัก และผลไม้ โดยยังคงคุณค่าทางโภชนาการ เนื้อสัมผัส และรสชาติของอาหารได้ดี
โดยรังสีที่ใช้ในการถนอมอาหารมี 3 ชนิดคือ รังสีแกมมา (gamma radiation) รังสีเอกซ์ (
x-
radiation)
และอิเล็กตรอนกำลังสูง (high speed electron)


การถนอมอาหารโดยการใช้สารเคมี


การถนอมอาหารโดยการใช้สารเคมีจุดประสงค์เพื่อยึดอายุการเก็บรักษาอาหาร โดยมี
ผลยับยั้งการเน่าเสียเนื่องจากจุลินทรีย์ สารเคมีที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ ได้แก่ เกลือ
น้ำตาล กรด สารกันเสีย สารกันหืน

การถนอมอาหารโดยการหมักดอง

การถนอมอาหารโดยการหมักดอง เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเนื่องจากจุลินทรีย์ย่อยสลาย
คาร์โบไฮเดรตหรือสารอื่น ภายใต้สภาวะที่มีหรือไม่มีอากาศ ซึ่งจะแตกต่างจากการถนอมอาหารอื่นที่มี
วัตถุประสงค์ในการทำลายจุลินทรีย์ และเอนไซม์ธรรมชาติในอาหาร การหมักดองจะทำให้ pH ของ
อาหารลดต่ำลง ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคเจริญได้